วันพฤหัสบดีที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2552

ตัวอย่างแบบทดสอบเรื่องภาษากับเหตุผล

๑. ข้อใดไม่อาจอนุมานได้จากข้อความต่อไปนี้
“ทำไมพวกเราส่วนใหญ่จึงไม่ถามตนเองบ้างว่ามีอารมณ์ขันอยู่บ้างไหม และหากไม่มีเหตุใด
จึงไม่มี และเราจะทำอย่างไรได้หรือไม่”
ก. คนเราควรมีอารมณ์ขัน
ข. อารมณ์ขันสามารถสร้างได้
ค. ผู้พูดเห็นประโยชน์ของอารมณ์ขัน
ง. ผู้พูดแนะวิธีสร้างอารมณ์ขัน
๒. จากคำประพันธ์ต่อไปนี้ ข้อใดไม่อาจอนุมานได้ว่าเป็นลักษณะของผู้ประพันธ์
“ไว้ปากไว้วากย์วาที ไว้วงศ์กวี ไว้เกียรติ และนามกรณ์
ก. มีฝีมือ ข. สงวนท่าที
ค. หยิ่งในเกียรติ ง. เชื่อมั่นในตัวเอง
๓. คำขวัญข้อใดแสดงเหตุผล
ก. ลูกมากจะยากจน ข. เด็กวันนี้คือผู้ใหญ่ในวันหน้า
ค. น้ำไหล ไฟสว่าง ทางดี มีงานทำ ง. เด็กดีเป็นศรีแก่ชาติ
๔. ข้อใดมีเนื้อความไม่สมเหตุสมผล
ก. ประเพณีรับน้องใหม่ควรอนุรักษ์ไว้ เพราะเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมานาน แต่ต้องเป็นไปในทางสร้างสรรค์
ข. การเข้าแถวเคารพธงชาติในตอนเช้า จะช่วยปลุกสำนึกให้เกิดความรักและภูมิใจในชาติ
ค. การปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัดจะช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุได้มาก
ง. การออกกำลังในตอนเช้าดีต่อสุขภาพ เพราะเป็นช่วงเวลาที่คนไม่พลุกพล่านมากนัก
๕. ข้อความต่อไปนี้มีโครงสร้างการแสดงเหตุผลตามข้อใด
๑) ความสนุกเกิดจากใจและกายที่สอดคล้องกันเป็นอันหนึ่งอันเดียว ๒)ใจอยากสนุก ร่างกายไม่เป็นใจก็นึกสนุกไม่ได้ ๓) ในทางกลับกัน ร่างกายพร้อมที่จะสนุกใจไม่เป็นไปด้วย ก็หมดโอกาสสนุก
ก. ๑) เป็นข้อสรุป ๒) และ ๓) เป็นข้อสนับสนุน
ข. ๑) เป็นข้อสนับสนุน ๒) และ ๓) เป็นข้อสรุป
ค. ๑) และ ๓) เป็นข้อสรุป ๒) เป็นข้อสนับสนุน
ง. ๑) และ ๓) เป็นข้อสนับสนุน ๒) เป็นข้อสรุป
๖. ข้อความต่อไปนี้สรุปความได้ตามข้อใด
“ทุกวันนี้อารยธรรมต่างประเทศหลั่งไหลเข้าประเทศมาก ทั้งวัตถุนิยม คตินิยม ความเชื่อ ถ้าคนไทยอ่อนไหว รับวัฒนธรรมต่างประเทศ ความเป็นชาติไทยก็จะหมดไปเรื่อย ๆ คนรุ่นหลังจะไม่มีโอกาสเห็นศิลปวัฒนธรรมไทย คนรุ่นเราจะต้องตระหนังสืบทอดสานต่องานที่บรรพบุรุษได้สร้างไว้อย่างมหาศาลอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นมรดกทางวัฒนธรรม
ก. คนรุ่นหลังจะไม่ได้เห็นศิลปวัฒนธรรมไทย ถ้าคนรุ่นปัจจุบันยังลุ่มหลงวัฒนธรรมต่างประเทศ
ข. อารยธรรมต่างประเทศหลั่งไหลเข้ามามาก เพราะคนไทยอ่อนไหวและเชื่อง่าย
ค. การรับวัฒนธรรมต่างประเทศ ทำลายความเป็นชาติไทย
ง. คนไทยควรเห็นคุณค่าและช่วยกันสืบสานศิลปวัฒนธรรมไทย
๗. ข้อความตอนใดมีการใช้เหตุผล
๑) พายุใหญ่ที่พัดกระหน่ำนาวาชีวิตครอบครัวคุณนั้นหนักหน่วง คุณควรถือประสบการณ์ครั้งนี้เป็นบทเรียนอันยิ่งใหญ่/ ๒) หากคุณเป็นคนเดินเรือคุณจะต้องรู้ว่าพายุนั้นมีอยู่คู่ทะเลเสมอ/ ๓) คุณจะหวังว่าชั่วชีวิตคุณจะโชคดี ไม่ต้องเผชิญพายุนั้นไม่ได้/ ๔) ธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ให้บทเรียนที่มนุษย์สามารถเรียนรู้ได้ตลอดไป
ก. ตอนที่ ๑) ข. ตอนที่ ๒)
ค. ตอนที่ ๓) ง. ตอนที่ ๔)
๘. ข้อใดเป็นการอธิบายจากผลไปหาเหตุ
ก. พี่ชมแล้วให้ตรมระบมกาย ด้วยเจ้าสายสุดใจมิได้มา
ข. เห็นลมอื้อจะใคร่สื่อสาระสั่ง ถึงร้อยชั่งคู่เชยเคยถนอม
ค. ประจวบจนถึงตำบลบ่อโศก ยามวิโยคออกชื่อก็ครือหู
ง. พี่จากจรดวงใจมาไกลเชย โอ้อกเอ๋ยแทบพังเหมือนฝั่งชล
๙. ข้อความต่อไปนี้ข้อใดไม่อาจอนุมานได้
“บ้านทรงไทยในสมัยก่อน นิยมยกพื้นสูง ไม่ใช่เพื่อความสวยงามอย่างเดียว แต่เป็นการนำภูมิปัญญาไทยและเข้าใจและเคารพธรรมชาติมาเป็นแนวคิดสำคัญในการออกแบบ หรือก่อสร้างบ้านเรือน ทำให้เกิดประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อม คือป้องกันอันตรายจากสัตว์ คนร้าย และป้องกันภัยน้ำท่วม”
ก. ผู้เขียนน่าจะเป็นสถาปนิก
ข. ชักชวนให้ปลูกบ้านใต้ถุนสูง
ค. ให้เลิกสร้างบ้านแบบตะวันตก
ง. บ้านทรงไทยเหมาะแก่เมืองไทย
๑๐. คำขวัญในข้อใดมีการแสดงเหตุผลอย่างสมเหตุสมผล
ก. หนึ่งเสียงของท่าน รังสรรค์บ้านเมือง
ข. ระบบพรรคดี ผู้สมัครมีคุณธรรม
ค. ไม่ป้องคนพาล ไม่อภิบาลคนชั่ว
ง. บ้านเมืองใช่ของใคร อย่าแยกค่ายแยกมุ้ง
๑๑. ข้อใดไม่อาจอนุมานได้ว่าเป็นบุคลิกภาพของผู้พูดในคำประพันธ์ต่อไปนี้
พระคุณเอ่ยจะคิดดูบ้างเป็นไรเล่า ว่ามัทรีนี้เป็นข้าเก่าแต่ก่อนมา ดังเงาตามพระบาทาก็เหมือนกัน นอกกว่านั้นที่แน่นอน คือนางไหนอันสนิทชิดใช้แต่ก่อนกาลยังจะติดตาม
พระราชสมภารมาบ้างละหรือ ได้แต่มัทรีผู้แสนดื้อผู้เดียวดอก ไม่รู้จักปลิ้นปลอกพลิกไพล่เอาตัวหนี”
ก. จงรักภักดี ข. ไม่เห็นแก่ตัว
ค. ขาดเหตุผล ง. เจ้าโวหาร
๑๒. ข้อความต่อไปนี้ ข้อใดไม่อาจอนุมานได้
“สังคมปัจจุบันเป็นสังคมที่ต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดของตนเองและครอบครัว ความสัมพันธ์ของสมาชิกในครอบครัวจึงไม่แน่นแฟ้นเท่าที่ควร”
ก. ครอบครัวส่วนมากพ่อแม่ทำงานนอกบ้าน
ข. พ่อแม่ไม่มีเวลารับฟังปัญหาของลูก
ค. สมาชิกในครอบครัวมีเวลาอยู่ด้วยกันน้อย
ง. เวลาส่วนใหญ่ของลูกอยู่กับเพื่อนที่โรงเรียน
๑๓. ข้อใดมีการแสดงเหตุผล
ก. บ้านเมืองสะอาด ประชาชาติปลอดโรค
ข. เติมน้ำมันทีไร ขับไปได้หน่อยเดียว
ค. ภูมิปัญญาไทย ขอจงร่วมใจส่งเสริม
ง. รักชาติศาสน์กษัตริย์ เป็นคุณสมบัติของคนไทย
๑๔. ข้อความต่อไปนี้เป็นการอ้างเหตุผลตามข้อใด
“จังหวัดสระแก้วเป็นสวรรค์ของคนรักธรรมชาติ พื้นที่ส่วนใหญ่ประกอบด้วยเทือกเขาสูงใหญ่ มีต้นน้ำที่สำคัญหลายสายที่เกิดจากหุบเขาเหล่านี้”
ก. จากสาเหตุไปหาผลลัพธ์ ข. จากผลลัพธ์ไปหาสาเหตุ
ค. จากผลลัพธ์ไปหาผลลัพธ์ ง. จากสาเหตุไปหาสาเหตุ
๑๕. ข้อความต่อไปนี้มีโครงสร้างการแสดงเหตุผลตามข้อใด
๑) การใช้พลังงานอย่างผิดวิธีของเด็กมักเกิดจากความไม่รู้และไม่เข้าใจ ๒) เนื่องจากเขาไม่ได้เรียนรู้วิธีการประหยัดพลังงานที่ถูกต้อง ๓) และไม่ได้ฝึกให้เคยชินเป็นนิสัย
ก. ๑) และ ๒) เป็นข้อสรุป ๓) เป็นข้อสนับสนุน
ข. ๑) และ ๒) เป็นข้อสนับสนุน ๓) เป็นข้อสรุป
ค. ๑) เป็นข้อสรุป ๒) และ ๓) เป็นข้อสนับสนุน
ง. ๑) เป็นข้อสนับสนุน ๒) และ ๓) เป็นข้อสรุป
๑๖. ข้อใดที่อนุมานไม่ได้จากข้อความต่อไปนี้
“ตั้งแต่ลูก ๆ ของสมศรีสามารถเลี้ยงตัวเองได้ เธอก็เลิกกิจการรับซื้อของเก่า และไปเข้าวัดฝึกสมาธิ”
ก. สมศรีเคยทำงานเลี้ยงดูลูก ๆ ข. ลูก ๆ ช่วยกันเลี้ยงสมศรี
ค. สมศรีสนใจการนั่งสมาธิ
ง. สมศรเคยมีรายได้จากการซื้อขายของเก่า
๑๗. ข้อใดที่อนุมานไม่ได้จากข้อความต่อไปนี้
“น้องของชัยวัฒน์สอบเข้าได้คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเดียวกับเขา ซึ่งเกินความคาดหมายของทุกคนในครอบครัว”
ก. ชัยวัฒน์มีน้องชาย ข. น้องของชัยวัฒน์เรียนไม่เก่งมาก
ค. ชัยวัฒน์เรียนในระดับอุดมศึกษา
ง. คนในครอบครัวไม่คิดว่าน้องจะสอบเข้าเรียนคณะแพทยศาสตร์ได้
๑๘. วิธีการอนุมานในข้อใดต่างกับข้ออื่น
ก. นักเรียนคนนั้นอาจสอบตก เขาฟังคำอธิบายไม่ทัน เข้าเรียนก็สาย
ข. คนมาชมการแสดงมากเกินความคาดหมายจนเกิดความแออัด อาจมีคนเป็นลมได้
ค. ผู้ปกครองกับครูประจำชั้นร่วมมือกันดูแลบุตรหลานดีเช่นนี้ นักเรียนคงมีผลการเรียนดีขึ้น
ง. อาจารย์ที่ปรึกษาอธิบายวิธีทำแบบทดสอบเกือบชั่วโมง นักเรียนน่าจะเข้าใจได้แจ่มแจ้ง
๑๙. อ่านข้อความต่อไปนี้แล้วตอบคำถามข้างท้าย
นักท่องเที่ยวชาวอเมริกันลองยื่นหน้าลงไปในปล่องภูเขาไฟที่มอดแล้ว แต่ยังทิ้งความร้อนไว้ไม่น้อย “โอ้โหร้อนอะไรอย่างนี้ ร้อนเหมือนนรกเลย” ฝรั่งร้องลั่น คนนำทางพื้นเมืองถึงกับมองหน้ากันด้วยความทึ่ง “นี่ถ้าไม่ได้ยินกับหู ข้าไม่เชื่อจริง ๆ นะ ที่เค้าว่าพวกฝรั่งเนี่ยเป็นนักท่องเที่ยวตัวยง ข้าเพิ่งเชื่อนี่ล่ะ” จงอนุมานว่า คนนำทางพื้นเมืองประหลาดใจเพราะเหตุใด
๒๐. อ่านข้อความต่อไปนี้แล้วตอบคำถามข้างท้าย
ผู้นำทางที่ใจกว้างคนหนึ่งต้องการจะผูกใจลูกน้องฝีมือดีที่เพิ่งชวนมาอยู่ด้วย จึงให้สิ่งของเงินทองแก่ลูกน้องผู้นั้นอย่างมากมาย วันหนึ่งเขาให้ม้าฝีเท้าดีตัวหนึ่งแก่ลูกน้อง เมื่อเห็นสีหน้ายินดีของลูกน้องเขาก็ถามว่า “เราให้เงินทองสิ่งของแก่ท่านเป็นอันมาก ท่านก็ไม่ยอนดีเหมือนเราให้ม้าตัวนี้ เหตุไฉนท่านจึงรักม้าอันเป็นสัตว์เดรัจฉานมากกว่าทรัพย์สินเล่า” ลูกน้องตอบว่า “ข้าพเจ้ารู้มาว่าม้าตัวนี้มีฝีเท้าดีมาก และมีกำลังเดินทางได้ไกล เมื่อใดที่ข้าพเจ้ารู้ว่านายเก่าของข้าพเจ้าอยู่ที่ใด ถึงไกลเพียงใด ข้าพเจ้าก็จะขี่ม้าตัวนี้ไปหาทันที”
จงอนุมานว่า ผู้นำคนนั้นจะมีความรู้สึกอย่างไร

3 ความคิดเห็น: